ก่อนตั้งกระทู้ ผมก็นึกว่าคำถามนี้เหมาะกับคนอายุแบบผมหรือเปล่า เพราะผมเกิดมาในยุคที่น้ำอัดลมบรรจุขวดขายเท่านั้น ไม่มีบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่น ซึ่งอายุขนาดนี้น่าจะคิดเองได้แล้ว เพียงแต่ผมคิด มันก็เป็นความคิดของผมที่ไม่ทราบว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับคำตอบหรือเปล่า ดังนั้นจึงมาลองตั้งคำถามดู เผื่อจะได้เจอความคิดที่หลากหลายมากขึ้น
คือผมคิดว่า ขวดแก้ว น่าจะมีต้นทุนในการจัดการมากกว่า (หากผิดรบกวนแก้ไข อธิบายด้วยครับ) ทั้งเรื่องการต้องมีระบบการจัดเก็บ (collection) ในการนำมาบรรจุใหม่ ต้นทุนการขนส่ง (ขวดมีน้ำหนักมาก) และต้นทุนในการล้างทำความสะอาด นี่คือเท่าที่ผมคิดได้ นอกจากนี้ยังมีต้นทุนที่ต้องผลิตเพื่อทดแทน เพราะน่าจะมีอัตราการสูญเสีย (แตก) อยู่พอสมควร ในขณะที่บรรจุภัณฑ์อื่น เช่นขวดพลาสติก หรือกระป๋องอลูมิเนียม น่าจะจัดการกับปัญหาที่ผมเขียนมาทั้งหมดได้ อีกทั้งยังมีขนาดบรรจุและรูปลักษณ์ที่หลากหลาย น่าจะเอื้อกับผู้บริโภคมากกว่า เหตุผลที่ผมมองว่าดี ผมนึกออกอย่างเดียวคือ ให้ความรู้สึกที่เป็นต้นฉบับ (original) ซึงก็ไม่ทราบว่ามันจะเป็นเหตุผลได้หรือเปล่า หรือว่าจะมีเหตุผลด้านการผลิต หรือการตลาดอื่นใดอีกบ้าง ไม่ทราบมีอะไรที่ผมมองข้ามไปบ้างครับ รบกวนชี้แนะครับ
บริษัทโค้กอเมริกาเขาได้ศึกษามาแล้วพบว่าโค้กที่ซดจากขวดแก้วแช่เย็นนี่แหละอร่อยสุด แถมยังรักษาแก๊สได้ดีกว่าขวด PET (ซึ่งมีรูพรุน) ขวดแก้วก็เก็บมาทำความสะอาดนำไปใช้ต่อได้
โค้กขวดแก้วเน้นขายในร้านอาหารด้วยสูตร 1 คนดื่ม 1 ขวด (10 onz) ได้พอดี ในราคาที่ไม่แพง กลับกันหากวางขายขวด PET 10 onz ในร้าน ต้นทุนการผลิตก็สูงขึ้น แถมอายุสินค้าสั้นกว่าเดิมยิ่งเป็นการเพิ่มต้นทุนแฝงเข้าไปอีก
ขวดแก้ว ซื้อขวดมาครั้งเดียวเวียนใช้หลายรอบผ่านกระบวนการล้าง แถมขวดแก้วก็ไม่แพง แต่ PET คือการเอาเม็ดพลาสติกมาขึ้นรูปเป็นแท่งพรีฟอร์มแล้วเป่าเป็นขวด หรืออาจซื้อแท่งพรีฟอร์มมาเป่าเอง ซึ่งต้นทุนสูงกว่าขวดแก้ว
การผลิตขวดแก้วประกอบด้วย ขวด ฝา ลัง
การผลิตขวด PET ประกอบด้วย ขวด ฝา แผ่นสติ๊กเกอร์รอบขวด กระดาษรองแพ็ค ฟิล์มหดห่อแพ็ค ฟิล์มยืดพันรอบกระบะ
คาดว่าคงจะพอเห็นนะครับว่าต้นทุนต่างกัน
