มันคือ สกุลเงิน Digital & Fintech ที่เราต้องเริ่มทำความรู้จักกับมัน
Bitcoin หรือเรียกย่อว่า BTC เป็นสกุลเงิน Digital สกุลแรกๆ ที่เกิดขึ้นมาโลกนี้ โดยใช้ Technology ที่เรียกว่า Blockchain
นอกจาก Bitcoin แล้ว ก็ยังมี สกุลเงิน Digital หรือ Cyptocurency อื่นอีกหลายตัว ที่เราเรียกรวมๆกันว่า Alt Coin เช่นสกุลเงินเหล่านี้
แอบดูราคาแลกเปลี่ยนแต่ล่ะตัวมันไปได้เลย ว่า ตัวไหนราคากีเหรียญ โดยเฉพาะดาวเด่นนอกจาก BTC ก็มี Ethereum และ ZEC และ LTC ขวัญใจนักขุดในปัจจุบัน
กลับมา ที่ตัวแม่ Bitcoin ถือกำเนิดมาโดย บุคคล หรือกลุ่มบุคคล ที่ไม่เปิดเผยตัวตน แต่ ได้รับการเรียกกันในนาม Satoshi Nakamoto โดยกำเนิดมาได้ ถึงวันนี้ราวๆ 9 ปี
เมื่อตอนเริ่มต้นมันเหมือนเงินเกมส์ ของเด็กเล่น ที่ไม่มีใครสนใจ เมื่อตอนเปิดตัวใหม่ มันแทบไร้ค่า
ว่ากันว่า ในยุคเริ่มต้น โปรแกรมเมอร์ ไอ้กัน คนนึง ประเดิมใช้จ่ายเงิน ชำระค่าสินค้า ด้วย BTC ที่ขุดมา 10,000 Coin เพื่อจ่ายค่าพิซซ่า 2 ถาด
อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนี้ 1 BTC = 2800 US $ เกือบๆ แสนบาทไทย 10000BCT ก็คือ ราวๆ เกือบ 28,000,000 US $ หรือราวๆ พันล้านบาทไทย พิซซ่า 2 ถาดนั้น เลยมีราคาตกถาดละ 500 ล้าน บาท กลายเป็นกระทู้ ในตำนานของ Bitcoin Forum ไปเลย
https://bitcointalk.org/index.php?topic=137.0
ส่วนอัตราแลกเปลี่ยนเป็นทางการจากตามเว็บ แลกเปลี่ยน ในยุคเริ่มต้น จากที่ ค้นเจอเมื่อ วันที่ 4/8/10 (เกือบ 7 ปีก่อน)1 BTC ขยับมาซื้อขายกันที่ =0.05 $ หรือ ประมาณ 2 บาท
เมื่อวันที่ 4/12/13 (3 ปีก่อน) BTC ขึ้นไป Peak ที่ 1230 US $
ก่อนที่จะโดนถล่มด้วยข่าวลือว่าจะมีฟองสบู่ รวมทั้งข่าว มีโบรคเก้อร์โดนแฮ้กทำให้ ราคา หล่นมาต่ำสุด เมื่อวันที่ 20/7/15 เหลือแค่ราวๆ 277 US $ ลดไป 5 เท่า
แต่หลังจากมีการแก้ไขและเข้าใจปัญหา และ ข่าว และหาทางแก้ไขแล้ว ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาเรื่อย ก่อนที่จะพุ่งทะยานอย่างร้อนแรง เมื่อวันที่ 29 /3/17 (2 เดือนนที่แล้ว) จาก 929 มาถึงวันนี้12 มิถุนาปี 17 ที่ 2900 US $ กว่า 3 เท่า
ใน 2 เดือน กว่าๆ เท่านั้น
เหตุผลหลักของการทะยานขึ้นมา คงเป็นเรืองความเชื่อมั่นต่อสกุลนี้เพิ่มขึ้น จากการที่รัฐบาลหลายประเทศ และ บ.ยักษ์ใหญ่ทั้งหลาย อย่าง Microsoft Google Amazon Pay pal และแม้แต่ บริษัทรถไฟฟ้า Hitec อย่าง Tesla ก็ ยอมรับชำระหนี้ ด้วย สกุลเงิน BTC กันแล้ว (บางบริษัทใช้ Third Party เข้ามาร่วม) รวมไปถึง มีหลายประเทศ อย่าง สหรัฐ แคนนาดา และอีกหลายประเทศ มี ATM ให้กดเงิน BTC ออกมาเป็นเงินสกุลหลักได้แล้ว ) และ รับรองธุรกรรมการโอนเงินต่างๆ ด้วย Bitcoin หรือ สกุลเงิน Alt Coin
เทียบย้อนดูมูลค่า ของมันกลับไป จาก 1 BTC = 2 บาท ในตอนเริ่มต้นเมื่อราวๆ 7 ปีก่อน ถึงตอนนี้ อยู่ที่ ประมาณ เกือบๆ 1 แสน ต่อ BTC เพิ่มขึ้นถึง 5 หมื่นเท่า ต้องเรียกว่าร้อนแรงสุดๆ
ใครซื้อ BTC ไว้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว 2 ล้านบาท แล้วถือมาถึง วันนี้ คุณคือ เศรษฐีแสนล้าน และ ไม่ใช่เงินที่ลอยในอากาศ ไม่ใช่เงินเกมส์ ไม่ใช่เงินกงเต็ก แต่เป็นเงินที่ถอนออกมาเป็นเงินสดได้เลย จริงๆ เหมือนเงินในบัญชีธนาคาร เรา ที่มองไม่เห็นตัวตน แต่ ถอนออนไลน์ออกมาได้ทันที
Bitcoin มาได้รับการกล่าวขวัญถึง อีกครั้งจนคุ้นชื่อคนทั้งโลกรวมทั้งคนไทย เมื่อ Hacker ที่ปลอยไวรัส WannaCry(อยากจะร้องไห้) หรือไวรัสเรียกค่าไถ่ ที่เรียกค่าไถ่เป็น เงิน BTC เท่านั้น
ในเมืองไทย เรา เริ่มมีบางร้านค้า รับชำระด้วย BTC กันแล้ว เช่นกัน แต่ยังไม่แพร่หลายนัก ส่วนใหญ่ชำระกันเล่นขำๆ
อย่างเช่นร้านก๋วยเตี๋ยวดัง ลิ้มเล่าโหวว นี้เป็นต้น
http://www.limlaongow.com/blog/limbitcoinpayment
หลายปีก่อน ประเทศไทยดูเหมือนเป็นประเทศแรกที่ประกาศ ไม่ยอมรับรองให้ Bitcoin ถูกกฏหมาย (แต่ไม่ได้บอกว่า Bitcoin ผิดกฏหมาย)
อาจจะประมาณว่า ไม่นับ Bitcoin เป็นสินทรัพย์
คิดเล่นๆ ถ้ามีคนล้มละลาย โดนยึดทรัพย์ เจ้าหนี้ จะเข้าไปยึด Bitcoin ของลูกหนี้ มาชำระหนี้ ตามกฏหมายได้มั้ย
มีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่า อาจจะไม่ได้ เพราะว่าไม่ได้ถือว่าเป็นทรัพย์ แล้ว จะไปยึดอย่างไร
แต่บางคนก็บอกว่า ถึงยึดได้ จะยึดจริง ก็จะยึดยากเพราะว่า บัญชี Bitcoin มันไม่มีการยืนยันตัวตน ทำให้ อาจจะตามได้ ค่อนข้างยาก
แต่ได้ยินว่า ตอนนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทยกำลัง พิจารณาออกมา รับรอง ให้ BTC เป็นเงินสกุลหนึ่ง เหมือนกับที่หลายประเทศที่พัฒนา เค้ารับรองกันไปนานแล้ว
แต่ถึงแม้ตอนนี้ จะไม่มีการรับรองตัวเงิน BTC แต่คนที่มี Acc Bitcoin เค้าสามารถ โอนเงิน ถอนเงิน แลกเปลี่ยน Bitcoin ออกมา เป็นบาทได้ทันทีแล้ว เช่นกัน
ดังนี้ เราจะไม่รู้ไม่สนใจ มันท่าจะไม่ได้แล้ว คอยจับตาไว้จะได้ตกยุค ตามเค้าทัน
คำเตือน
ระวังแชร์ลูกโซ่ ชวนลุงทุน Bitcoin OneCoin หรือสารพัด Coin
ระวังเรื่องความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน อย่าให้ความโลภครอบงำ
ถึงเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทย จะออกมาดูแลให้ความรู้ ประชาชน และควบคุมเงินสกุลเหล่านี้ กันได้แล้ว. ไม่งั้นบางคนจะตกยุค บางคนจะโดนหลอก ด้วยพวกแอบแฝง