หวัดดีค่ะ เราอายุยี่สิบสี่ เราเป็นแม่ค้าออนไลน์ ( อาชีพเสริม ) มา 1 ปีครึ่ง
เราเปิดร้านค้าออนไลน์ทั้งหมด 3 ร้าน ในแอพพลิเคชั่นซื้อขายาออนไลน์ แอพหนึ่ง

ร้านแรก ขายมา 1 ปีครึ่ง จากขายได้เดือนนึงกำไรหลักร้อย เป็นหลักหมื่นต่อเดือน ติดต่อกันมามากกว่า 1 ปี
ร้านที่สอง ขายมา 3 เดือน จากกำไรเดือนแรกหลักร้อย เป็นเดือนละ 3,000 บาทขึ้น
ร้านที่สาม ขายมา 4 เดือนกว่า ได้กำไรน้อยมาก แบบหลักร้อยต่ำๆ ติดต่อกัน 4 เดือน
(สรุปคือไม่คุ้มค่าเหนื่อย เราจึงต้องมาคิดใหม่ ทำใหม่ เลยเปลี่ยนที่ขายใหม่ เป็นช่องทางอื่นทางที่ไม่ใช่ใน Appซื้อขายสินค้าออนไลน์)

สรุปกำไร ( กำไรสุทธิ ที่หักลบต้นทุนและค่าใช้จ่ายอื่นๆ แล้ว )
จากร้านค้าออนไลน์ทั้ง 2 ร้าน กำไรต่อเดือนประมาณ 15,000 บาทขึ้น
แน่นอนว่าทั้ง 3 ร้าน สินค้าต่างกัน แต่อยู่ในพื้นที่ซื้อขายเดียวกัน คือใน แอพซื้อขายสินค้าออนไลน์แอพหนึ่ง

ข้อดีที่เราเจอจากการเป็นแม่ค้าออนไลน์ใน App ซื้อขายสินค้าออนไลน์

1. คุณมีเวลาว่างมากพอ วันนึงใช้เวลากดโปรโมทสินค้าไม่ถึงสิบนาที เดือนนึงอัพเดทสินค้าและอัพเดทโปรโมชั่นซะหนึ่งครั้ง
ส่งของอาทิตย์ละ 3 ครั้ง เวลาสต๊อกของ แพ็คของบวกเวลาไปส่งของไม่ถึง 3 ชั่วโมงต่อครั้ง
สรุปคือใช้เวลาไม่มาก มีเวลาหลือเฟือที่จะทำกิจกรรมอย่างอื่น
2. คุณจะอยู่ที่ไหนก็ได้ เที่ยวรอบโลกก็ได้ คุณก็ยังมีรายได้เสริม *กรณีคุณจ้างคนส่งของ และแพ็คของพาร์ททาร์ม
ค่าจ้างไม่ต้องมากมาย พอประมาณ แต่ไม่เอาเปรียบลูกจ้างนะคะ แบบวินๆทั้งเราทั้งลูกจ้าง
3. คุณไม่ต้องไปเสียค่าเช่าที่ เสียเวลานั่งเฝ้าร้าน แถมคุณยังได้ลูกค้าทั่วประเทศ
ไม่จำกัดเฉพาะจังหวัดได จังหวัดหนึ่ง ทุกอย่างฟรี แต่เรื่องเสียภาษี อย่าลืมจัดการกันนะคะ

ข้อเสียของแม่ค้าออนไลน์
1. ความเสี่ยงและความมั่นคง เพราะครั้งนี้มีลูกค้า ครั้งหน้าอาจไม่มี คู่แข่งก็เยอะซะเหลือเกิน ตัดราคากันก็มี
ความเสี่ยงดังกล่าว อยู่ที่คุณว่าจะเลือกบริหารจัดการยังไง มีแผนรับมือกับความเสี่ยงยังไง

บทเรียนที่เราได้จากอาชีพแม่ค้าออนไลน์ (กรณีขายสินค้าผ่านแอพซื้อขายออนไลน์)

1. ถ้าคุณยังไม่ลองทำมันด้วยตัวเอง คุณจะรู้ได้ยังไงว่าสิ่งที่คุณคิด เป็นจริงหรือไม่
คุณอย่าไปคิด(เพียงลำพัง)ว่า ขายสินค้า X ในแอพนี้ จะขายออกหรอ งั้นไม่ขายดีกว่า (อันนี้คือคุณพลาดตั้งแต่ต้นละ)
คือเรื่องบางเรื่องมันเป็นคำถามที่ให้ตัวคุณลงมือ หาข้อมูลจากผู้รู้ หรือลองทำเพื่อหาคำตอบ
ไม่ใช่เพียงแต่คาดเดาจากความคิดของตัวเองฝ่ายเดียว

2. ขายของออนไลน์ ดูว่าเราสะดวกขายที่ไหน ช่องทางไหน ลูกค้าอยู่ในตลาดไหน สำหรับเราไม่สะดวกโฆษณา ประกาสขาย
คอยโพสต์ ในที่นั่นที่นี่ หรือต้องคอยตอบแชทตลอด ตอบคอมเม้นต์ตลอด เพราะเรามีอาชีพหลักที่ต้องจัดการอยู่
และเราชอบอะไรที่มีระบบ เราจึงเริ่มขายในแอพซื้อขายสินค้าออนไลน์
เพราะมีระบบจัดการสินค้า หน้าร้าน หลังร้าน ระบบโปรโมทสินค้า แคมเปญต่างๆ ระบบการชำระเงิน ระบบการจัดส่ง ถือว่าครบครัน

3. แม่เราเคยสอนว่าขายอะไรก็ได้ ถ้าเป็นอาชีพสุตจริต และการค้าขายจะช่วยสร้างฐานะได้เร็ว
แต่อย่าลืมว่าเป็นแม่ค้าใคร ๆ ก็เป็นได้ แต่เป็นแม่ค้าให้ประสบความสำเร็จมันต้องมีอะไรมากกว่าขายของแบบทำเล่นๆ
อยากขายก็ขายๆไป ขาดการวางแผน ขายล้มๆเลิกๆ
*สำหรับเราการมีอาชีพเสริมที่ใช้เวลาไม่มาก และมีรายได้ประมาณนี้ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับต้นแล้ว
แต่เห็นมีแม่ค้าหลายคนกำไรได้หลายหมื่นต่อเดือน อันนี้คือยกนิ้วโป้งให้เลย ยอดเยี่ยมสุดๆ
แต่สำหรับใครที่กำลังเริ่มเป็นแม่ค้าออนไลน์หรือกำลังจะเริ่มทำอาชีพด้านนี้ เราขอเป็นกำลังใจให้ต่อไปนะคะ

4. อย่าหมิ่นเงินน้อย อย่าคอยวาสนา น้ำบ่อน้อยหลายๆบ่อ รวมกันเป็นแม่น้ำได้นะเอ่อ

5. ตระหนักไว้เสมอว่าลูกค้าชอบของดี ราคาถูก การมีสินค้าที่คุณภาพดีในมืออยู่แล้ว คือมีชัยไปกว่าครึ่ง
เราต้องพยายามหาสินค้าที่มาจากต้นตอ เพราะผ่านคนกลางน้อย เพราะเราจะได้สินค้าในราคาที่ถูก
ที่เหลือก็เป็นเรื่องของการบริการ และการตลาด
(หากราคาถูกกว่ากันไม่มาก ลูกค้าไม่ได้เลือกสินค้าที่ราคาถูกเสมอไป เพราะฐานลูกค้าชอปปิ้งออนไลน์ค่อนข้างมีความรู้
และดูความน่าเชื่อถือของร้านค้า รวมถึงรีวิวจริงๆ ของร้านค้า)

6. ทุกอย่างลง Excel หรือโปรแกรมคำนวณอื่น ๆ เพื่อติดตาม กำไร ขาดทุน และการตั้งราคาสินค้า รวมถึงราคาโปรโมชั่น
แต่ถ้าจะสวกจดลงกระดาษก็ได้นะคะ แต่อาจจะมองเห็นภาพหรือคาดการณ์ การจัดการร้านค้ายากนิดหน่อย

7. ขายของที่ตลาดต้องการ ไม่ใช่ขายของที่เราชอบ แต่ถ้าเราชอบแล้วตลาดต้องการด้วย คือดีเริศเลอเลย
หากเราทำอะไรด้วยใจรัก มันจะสนุก
แล้วของที่ตลาดต้องการ ดูยังไง? (สำหรับเรา ดูจาก แทรนด์ /ของที่ลูกค้าตามหา/หรือเปิดกูเกิลหาอัตราการติบโตของตลาดสินค้าอุปโภค)

8. แนะนำ แรกๆอย่าลาออกจากงานประจำมายึดอาชีพแม่ค้าออนไลน์เป็นหลัก
เพราะความมั่นคงเอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่ถ้าขายดีมีลูกค้าประจำสามสี่ปี ก็ค่อยคิดอีกที

9. มีได้ย่อมมีเสีย ยามได้ก็อย่าหลงระเริง ยามเสียก็อย่ายึดติด เพราะชีวิตเริ่มใหม่ได้เสมอ

10. สำรวจคู่แข่ง ราคา โปรโมชั่นที่เขาทำ รู้เขารู้เรารบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

11. การหมุนเงินของเราสำหรับตอนเริ่มแรก เรามีทุนในส่วนของร้านค้าออนไลน์ไม่มาก
เดือนนึงทุนเพื่อใช้ขายสินค้าหลายหมื่น แรกๆเราหมุนเงินโดยใช้บัตรเครดิต
ต้นทุนสินค้าเราใช้บัตรเครดิตจ่าย แต่พอได้เงินจากลูกค้า กรณีขายในApp เราจะได้เงินประมาณไม่เกินเจ็ดวัน
เราหักกำไรออก แล้วเอาต้นทุนจ่ายค่าบัตรเครดิตทันที อันนี้คือต้องวางแผนให้ดี จ่ายค่าบัตรทันทีที่ได้เงินมา
แต่พอเรามีเงินมากพอที่จะใช้เป็นทุน เราก็ใช้เงินส่วนนั้นแทน

12. หากใครถามขายของออนไลน์อะไร เราก็ตอบกว้างๆไว้นะคะ อันไหนที่ยังไม่ประสบความสำเร็จ อาจจะฝากร้านที่อื่นได้ เช่นฝากเพื่อน
แต่ให้คิดเสมอว่า เพื่อนไม่ใช่ลูกค้าค่ะ เพราะปัจจัยในการดึงดูดการซื้ออาจไม่ใช่ความต้องการในสินค้านั้นจริงๆ
แต่อาจจะเกรงใจเราซะมากกว่า
สำหรับร้านที่ประสบความสำเร็จแล้ว มีลูกค้าประจำแล้ว เก็บเงียบไว้เป็นดีค่ะ อย่าให้ใครได้รับรู้ (นอกจากเพื่อนที่ไว้ใจได้)
เพราะคนเรามีหลายลักษณะ บางคนก๊อปปี้เราแล้วกดวางเลยก็มี
ประกอบกับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับ สินค้าที่เราขาย/แหล่งสินค้า/ที่ที่เราขายจากเรามาบ้าง กลับกลายมาขายแข่งกันเองซะงั้น
แต่บางคนพอรู้ข้อมูลจากเรา เขาก็เอามาประยุกต์แล้วเลือกขายสินค้าที่เราไม่ขาย
อันนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีค่ะเพราะสิ่งที่เราแบ่งปัน ช่วยให้คนอื่นมีรายได้ด้วย โดยไม่เบียดเบียนตัวเราเอง
ด้วยเหตุนี้ การเงียบจึงเป็นสิ่งที่ดีค่ะ

__________________________________________________________________________________

สำหรับเรารายได้จากอาชีพหลักเราใช้เพื่อตัวเองทั้งหมด ส่วนรายได้จากอาชีพเสริม
เราใช้เงินส่วนนี้เลี้ยงพ่อ ส่งให้แม่ ช่วยค่าใช้จ่ายพี่
และแบ่งเก็บไว้เดือนละนิดหน่อย เพื่อใช้ยามพ่อแม่หรือคนในครอบครัวเจ็บป่วย

สุดท้ายนี้หากการใช้ภาษาไทยของเราผิดพลาดประการได
หรือการสื่อสารด้านการค้า(เราไม่ได้เรียนมาทางนี้ ภาษาการตลาดอาจเพี้ยนๆ) ผิดพลาดประการได
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

และขอให้ทุกคนโชคดีในทางที่เลือก ขยันให้ถูกที่ถูกทาง คนขยันไม่เคยอดตายค่ะ สู้ๆ ค่ะ

– เป็นกำลังใจให้ค่ะ –