ถ้าคุณเคยอ่านหนังสือ How to สอนรวยมาหลายเล่ม แต่ก็ไม่ได้ช่วยให้คุณรวยขึ้น

ถ้าคุณเคยเข้าคอร์สสอนรวย แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เหมือนเดิม คุณก็ยังคงไม่รู้ว่าเงินล้านมันมีวิธีหายังไง

ถ้าคุณเคยอ่านชีวประวัติคนรวยมาไม่รู้กี่คนต่อกี่คน คุณรู้หมดว่าการเป็นคนรวยต้องมี mind set ยังไง แต่คุณก็ยังจนเหมือนเดิม

กระทู้ของผมจะทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนไปอย่างที่คุณคาดไม่ถึง โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนแม้แต่บาทเดียว ผมไม่ได้มาขายอะไร  แต่มาบอกว่าวิธีการหาเงิน1ล้านบาท ภายใน1ปี มันทำยังไง  ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีใครเปิดเผยมาก่อน ทั้งหมดที่ผมจะเล่าไม่ใช่แนวคิด แต่เป็นวิธีการทำเงินจริงๆเลย
คุณไม่ต้องเป็นอัจฉะริยะมาจากไหน ขอแค่อ่านออกเขียนได้ สื่อสารได้ พอแล้ว

เมื่อกลางปี58 ผมมีเงินเหลืออยู่ในบัญชี 1300 บาท นั่นคือจุดต่ำสุดในชีวิตของผม ผมเคยเป็นครูมาก่อน หลังจากผมลาออกจากอาชีพครู(ลูกจ้างชั่วคราว) ผมมีเงินเก็บประมาณ 80,000 บาท นำไปลงทุนเปิดร้านอาหารกับเพื่อน ปรากฏว่าเจ๊ง หมดตัว แต่ยังโชคดีที่ไม่เป็นหนี้

ระหว่างหางานใหม่ทำ ครอบครัวจึงเหลือรายได้จากเมียคนเดียวที่เป็นพนักงานโรงงาน ความซวยไม่หมดเพียงแค่นี้ โรงงานที่เมียทำอยู่ขาดทุนต้องปลดพนักงาน เมียผมเป็นหนึ่งใน50คนที่ซวยจากกการถูกปลด  เราสองคนจึงต้องไปทอดลูกชิ้นขายตามตลาดนัด ด้วยความที่ไม่เคยขายของตลาดนัด ผลลัพธ์คือถูกไล่ไม่ให้ขายจากคนที่ขายอยู่ก่อน และเป็นแบบนี้เกือบทุกที่ อารมณ์ประมาณว่าเขาจะไม่ให้ขายของที่เหมือนกัน

ผมปรึกษากับเมีย ว่าเราแย่แน่ ผมต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ไม่รู้ว่าจะทำอะไร จึงเดินเข้าไปในร้านหนังสือซีเอ็ด เพื่อยืนอ่านนิตยสารเส้นทางเศรษฐี และบังเอิญมองไปที่ผนังจัดอันดับหนังสือขายดี มีแต่หนังสือสอนรวย และหนังสือกูรูหุ้นเต็มไปหมด  ผมจึงลองเปิดอ่าน อยากรู้ว่าคนเขียนทำอะไรรวย ปรากฏว่าไม่มีหนังสือสอนรวยเล่มไหนเปิดเผยเลยว่า คนเขียนหนังสือรวยมาจากธุรกิจอะไร และรวยจริงป่าวก็ไม่รู้  แต่หนังสือกลับขายดี และอาจจะรวยจากการขายหนังสือสอนรวยมากกว่า ผมอยู่ในร้านซีเอ็ดหลายชั่วโมง เพื่อเปิดอ่านหนังสือสอนรวยแบบคร่าวๆเกือบทุกเล่ม ปรากฏว่าเนื้อหามันคล้ายๆกันหมด มักจะใช้ฟร้อนท์ตัวใหญ่ๆ เพื่อให้เปลืองหน้ากระดาษ มีคำคมเท่ๆแต่ไม่มีสาระ และมักจะพูดเรื่องแนวคิดซึ่งเลื่อนลอยจับต้องไม่ได้  ผมจดชื่อคนเขียนหนังสือสอนรวยทุกเล่มที่เขียนโดยคนไทย กลับบ้านแล้วมาเสริซอินเตอร์เน็ต ดูว่าคนพวกนี้ทำธุรกิจอะไร(เผื่อเป็นไอเดียที่ผมจะทำบ้าง) ปรากฏว่า …หาไม่เจอ !!!

มีความเป็นไปได้อย่างสูงที่คนพวกนี้ จะไม่ได้ทำธุรกิจอะไรจริงๆ  แต่นั่งเทียนเขียนขึ้นมา และด้วยความที่เนื้อหาซ้ำๆ อิสระทางการเงิน ,ใช้เงินทำงาน,กฎแรงดึงดูด อาจเป็นไปได้ที่ลอกกันไปลอกกันมา  แล้วทำไมผมจะเขียนบ้างไม่ได้ คนไทยทุกคนผ่านการฝึกฝนการเขียน โดยการเขียนเรียงความตั้งแต่ประถม มัธยมก็ต้องเขียนรายงานกลุ่มส่งอาจารย์

ผมกลับไปซีเอ็ดอีกครั้ง คราวนี้หามุมหลังร้าน นั่งอ่านหนังสือสอนรวยแบบคร่าวๆตั้งแต่เช้าถึงค่ำ ประมาณ 20กว่าเล่ม(เน้นอ่านหนังสือเล่มที่บอกว่าพิมพ์หลายๆครั้ง แสดงว่าเนื้อหาแบบนี้ขายดี) เพื่อจะเอาเนื้อหามายำ แล้วเขียนเป็นหนังสือของเราออกมา ผมใช้เวลา3วัน เขียนหนังสือสอนรวยออกมาหนึ่งเล่ม แน่นอนว่าใช้ฟร้อนท์ตัวใหญ่ และอัดแน่นด้วยคำคมที่นั่งคิดเองบ้าง ลอกจากอินเตอร์เน็ตบ้าง  ผมส่งต้นฉบับทางอีเมล์ไปยังสำนักพิมพ์ต่างๆ แต่ไม่มีใครตอบกลับมาหาผมเลย ผมรออยู่หนึ่งเดือน เงินเก็บร่อยหรอลงไปทุกที ลูกชิ้นทอดก็ขายไม่ค่อยได้ เพราะลูกค้าติว่าน้ำจิ้มไม่อร่อย เลยเลิกทำน้ำจิ้มเอง แล้วไปขอซื้อน้ำจิ้มจากร้านที่ขายดีมาแทน โดยเอามาผสมของเราครึ่งนึง คราวนี้ลูกค้าบอกว่าอร่อย ก็พอขายมีกำไรประทังชีวิตไปวันๆ

การรอคอยสิ้นสุดลง เมื่อผมไม่ได้รับการตอบอีเมล์ ผมถอดใจแล้ว และสิ่งที่เปลี่ยนชีวิตผมไปตลอดกาล ก็คือการที่ผมได้ดูคลิปๆนึงในยูทูป  เป็นผู้ชายคนนึงที่บอกว่าตัวเองรวยเป็นร้อยล้าน ภายในไม่กี่ปี โดยเป็นคนจนมาก่อน เขาคือแรงบันดาลใจของผม และต่อมสงสัยผมได้เริ่มทำงานอีกครั้ง …เขาทำธุรกิจอะไร ???

ผมนำชื่อและนามสกุลของเขาไปค้นหา เพื่อดูว่าเขาขายอะไร ผมน่าจะลองขายบ้าง เพราะเขาบอกว่าเขาเริ่มจากคนจน ก็คงจะขายอะไรที่ไม่ต้องลงทุนเยอะ แต่กำไรเยอะ ภายในไม่กี่ปี มีเงินเป็นร้อยล้าน แต่สุดท้ายผมก็หาไม่เจอ  มีคนเข้าไปถามในเฟสบุ๊คมากมายว่าเขาขายอะไร แต่ไม่มีใครเคยได้คำตอบ
แต่วันนี้มีคนมากมาย จ่ายเงินให้เขา เพื่อให้เขาสอนวิธีรวย

ตลอด2เดือนที่ผ่านมา ผมเรียนรู้แล้วว่า …

ไม่มีใครสนหรอกว่าคนเขียนหนังสือสอนรวยเป็นใคร คนเขียนรวยจริงรึป่าว
ไม่มีใครสนอีกเช่นกัน ว่าคนที่เปิดคอร์สสอนรวยเป็นใคร มาจากไหน ทำอะไรมาก่อน ขอแค่บอกว่า ผมจะสอนให้คุณรวย ก็พอแล้ว
ก็เหมือนผมขายลูกชิ้น ไม่มีใครสนใจว่าผมจบการทอดลูกชิ้นมาจากไหน  เขาต้องการแค่ซื้อลูกชิ้น
ก็เหมือนคนทั่วๆไปที่ต้องการซื้อฝัน เราก็ขายฝัน

การที่ผมพูดแบบนี้ ไม่ได้หมายความว่า คนเขียนหนังสือสอนรวย หรือคนขายคอร์สสอนรวย เขาไม่รวยจริงนะครับ เขารวยแน่ๆล่ะจากการขายหนังสือ และขายคอร์ส แต่เรื่องราวก่อนหน้านั้น ไม่มีใครรู้ เพราะเขาไม่บอก  ถ้าคุณดูรายการอายุน้อยร้อยล้าน เราจะรู้ว่าคนที่มาออกรายการเขาทำธุรกิจอะไร รายการจะไปถ่ายโรงงาน ไปถ่ายสินค้าของเขามาให้เราดู   แต่ทำไมคนขายคอร์สสอนรวย ถึงกลับไม่ยอมเปิดเผยว่าโรงงานเขาอยู่ที่ไหน สินค้าของเขาคืออะไร  ทั้งๆที่เป็นเรื่องควรเปิดเผย เพราะจะได้เป็นการโปรโมทบริษัทตัวเองด้วยซ้ำ  เราจะเห็นแค่เพียงสูทที่เขาใส่ และรถสปอร์ตซึ่งไม่รู้ว่าของใคร
ปฏิบัติการสร้างธุรกิจขายคอร์สสอนรวยของผมจึงเริ่มจากจุดนี้

คุณเคยคิดอยากเป็นเจ้าของธุรกิจใช่ไหม แน่นอนว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ ต้องเคยคิดอยากทำธุรกิจ และคำถามที่ทุกคนอยากรู้ก็คือ จะขายอะไร
ผมเชื่อว่าคนครึ่งนึงคิดไม่ออก ส่วนอีกครึ่งนึงที่คิดออก ก็ไม่มีทุน
วันนี้ผมจะมาสอนคุณขายในสิ่งที่คนทั่วประเทศไทยต้องการซื้อ นั่นคือ ขายความฝัน
เปิดคอร์สสอนรวย  ผมจะเปิดเผยรายละเอียดอย่างหมดเปลือก  ว่าผมทำยังไง ภายใน1ปี ผมหาเงินจากการขายคอร์สได้ถึง 4 ล้านบาท  โดยที่ก่อนหน้านี้ผมมีเงินอยู่ในบัญชีแค่ 1300 บาทเท่านั้น

สตีฟ จ็อบส์ เคยพูดเรื่องจุดเชื่อมต่อ เขาบอกว่าเคยเรียนวิชาออกแบบอักษรโดยที่ไม่รู้ว่าจะเอาไปใช้ทำอะไร หลายปีต่อมาเขาใช้วิชานี้ออกแบบฟร้อนท์ในแมคบุค ทำให้ทุกวันนี้โลกมีฟร้อนท์สวยๆใช้

ผมก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่า การที่ผมไปอ่านหนังสือ how to สอนรวยในซีเอ็ดฟรีๆหลายสิบเล่ม เพื่อจะเขียนหนังสือขายประทังชีวิต แต่โปรเจคต้องล้มเหลวเพราะไม่มีสำนักพิมพ์ไหนติดต่อมา แต่สิ่งนี้กลับกลายเป็นวัตถุดิบให้ผมนำมาพูดในคอร์สสอนรวยจนสร้างเงินล้านให้ผมภายใน1ปี

สิ่งแรกที่คุณต้องทำ ถ้าอยากเปิดคอร์สสอนรวย ก็คือ ให้คุณไปยืนอ่านหนังสือสอนรวยในซีเอ็ด อ่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเลือกเล่มที่ติดอันดับขายดี หรือเล่มที่พิมพ์หลายๆครั้ง แสดงว่าเนื้อหามันโดนใจ จำไว้นะครับ เรื่องราวในหนังสือมันจะใช้การได้รึไม่ จริงหรือเท็จ ไม่ต้องไปสนใจ เนื้อหาโดนใจมวลมหาประชาชนถือว่าใช้ได้

แล้วนำสิ่งที่ได้อ่านมา เอามายำกัน ท่องคำคมต่างๆที่อ่านเจอเอาไว้  ถ้าให้ดีควรจดไว้เลย เพื่อนำไปพูดในวาระต่างๆ
โครงสร้างหลักสูตรสอนรวยของคุณจำเป็นต้องมีเรื่องในหัวข้อพวกนี้

1.อิสรภาพทางการเงิน
คุณต้องพูดเรื่องการเกษียณตั้งแต่อายุ40 พูดเรื่องไม่ต้องทำงาน พูดในสิ่งที่พนักงานออฟฟิศทั่วๆไปทำไม่ได้นั่นแหละ ตื่นบ่ายโมง ตีกอล์ฟวันจันทร์ เที่ยวทุกเดือน การเปิดคอร์สสัมนาสอนรวย คือ การพูดถึงงานอดิเรกของคุณครึ่งนึง(โม้ขึ้นมาให้เว่อร์ๆ) ส่วนอีกครึ่งคือพูดเรื่อง mind set ของคนรวย

2.Passive income
ต้องมีเรื่องนี้ ไม่งั้นคุณจะดูไม่โปร

3.กฏแรงดึงดูด

4.ขายของออนไลน์

เมื่อคุณร่างหลักสูตรขึ้นมา เนื้อหามันจะวนไปวนมา และไม่ยาวมาก ไม่ต้องกังวล เพราะในการสัมนาสอนรวย 1 วัน (ประมาณ 6ชั่วโมง)

2ชั่วโมงแรกคือ การเล่าประวัติของคุณ คุณห้ามเล่าว่าคุณเป็นคนรวยมาก่อนเด็ดขาด เพราะคนฟังจะไม่มีอารมณ์ร่วม และต่อต้านคุณ เพราะคิดว่าคุณมีเงินทุน มีคอนเนคชั่น คนฟังจะสร้างป้อมปราการขึ้นมา ว่าเขาจะทำแบบคุณไม่ได้ คุณต้องเป็นคนจนมาก่อนเท่านั้น ยิ่งเว่อร์ยิ่งดี  เคล็ดลับการโม้คือคุณอย่าไปพูดอะไรกลางๆ ถ้าจะโม้ต้องเอาให้ถึงที่สุด คนฟังจะชอบ เพราะพวกเขาจะคิดว่าขนาดคุณยังกลับรวยได้ เขาก็ต้องรวยได้  โม้ไปเลย เหลือมาม่าอยู่ห่อเดียว ต้องแบ่งกินกับเมีย

1ชั่วโมงต่อมา ให้คุณเอาประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จในระดับโลก เช่น บิลเกต ,สตีฟ จ็อบส์ แจ็คหม่า มาเล่า ไม่ต้องไปสนว่าคนฟังเคยฟังมาก่อนรึไม่ เรื่องราวของคนประสบความสำเร็จ เป็นอะไรที่ฟังได้ไม่รู้เบื่อ

1ชั่วโมงต่อมา ให้คุณหาเพื่อน หรือ คนรู้จักสักคนสองคนมาร่วมพูดในสัมมนา เพื่อเผาเวลา ช่วงนี้คุณก็ได้พักด้วย

อีก2ชั่วโมงที่เหลือ คุณก็เล่าในสิ่งที่คุณร่างไว้ในหลักสูตร

เวลาการพูดเรื่องธุรกิจออนไลน์ ก็อย่าลืมพูดเรื่องมาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก และ เว็บขายของออนไลน์อย่าง amazon ว่าเอาชนะวอลมาร์ทได้ยังไง

ส่วนแรกที่กล่าวไป คือการเตรียมเนื้อหาที่จะสอน

ส่วนที่2คือส่วนที่สำคัญมาก คนจะมาเรียนกับคุณรึไม่ อยู่ที่ส่วนนี้ (จะมีการลงทุนบ้าง) หลังจากที่ผมเปิดคอร์สได้เงินมา2หมื่น ผมจึงเอามาลงทุนในส่วนนี้ ซึ่งได้ผลอย่างมาก จึงแนะนำว่าให้ทำเลยตั้งแต่ต้น
นั่นคือการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ วิธีการมีดังนี้

1.ให้คุณไปเช่าสูทมา1ชุด จำไว้ว่าสูท คือเครื่องหมายของนักธุรกิจ เพียงแค่คุณใส่สูท จากคนขายลูกชิ้นปิ้ง จะกลายเป็นประธานบริษัทที่มียอดขายพันล้านทันที รูปทุกรูปในโลกออนไลน์ของคุณ ต้องสร้างภาพว่าคุณโคดรวยระดับร้อยล้าน แค่ใส่สูท ถือว่าสร้างภาพได้ครึ่งนึงแล้ว

2.รูปถ่ายที่ญี่ปุ่น ช่วงหิมะตก ให้คุณวางแผนจองตั๋วล่วงหน้าเลย เพื่อเอาตั๋วที่ถูกที่สุด แล้วไปญี่ปุ่นเดือนมกราคม ฮอกไกโด ก็ได้  จำไว้ว่าหิมะ คือสิ่งที่คนไทยส่วนมากอยากสัมผัสมากที่สุด และหิมะคือเครื่องหมายของคนที่ประสบความสำเร็จจนมีตังค์ไปเที่ยว คุณคิดว่าคนไทย70ล้านคน มีคนเคยสัมผัสหิมะกี่คน ไม่เกิน20ล้านคนแน่นอน อีก50ล้านคน ไม่เคยสัมผัสหิมะ  เวลาถ่ายรูปให้คุณยืนตรงกลางรูป กางแขนออก แล้วเงยหน้าขึ้นฟ้า ท่านี้คือสัญลักษณ์ของนักบอลเวลายิงประตูได้ มันคือท่าแห่งความสำเร็จที่ฝังอยู่ในหัวคนไทยโดยไม่รู้ตัว  และยิ่งคุณโพสท่านี้กลางหิมะ คนก็อยากจะโอนตังค์ให้คุณสอนวิธีรวยแล้ว

3.จ้างช่างภาพ1วัน เพื่อถ่ายรูปคุณกับรถสปอร์ต ถ้าคุณมีเงินเช่ารถด้วยยิ่งดี แต่ถ้าไม่มีให้คุณทำทีไปขอทดลองขับ แล้วให้ช่างภาพถ่ายรูปให้เยอะที่สุด แล้วค่อยมาคัดเลือก เพราะรถสปอร์ตคือความฝันของคนทุกคนบนโลกใบนี้  สังคมพร้อมจะเชื่อว่าคุณรวย ถ้าคุณขับรถแพง  เราไม่ได้ถูกสอนให้ตัดสินฐานะคนจากกิจการที่เขาทำ แต่เราถูกโปรแกรมมาให้ตัดสินคนจากภายนอก เวลาคุณเห็นคนขับเบนซ์ สมองคุณจะประมวลผลว่าเขาคือคนรวย  ทั้งที่ความจริงเขาผ่อนแบบบอลลูน และขายทิ้งในงวดสุดท้าย การจ้างช่างถ่ายรูปมันสำคัญมาก เพราะคุณจะได้รูปภาพแบบที่คุณเห็นในนิตยสารของพวกไฮโซ ภาพถ่ายที่ถูกวางแผนและจัดองค์ประกอบศิลป์มาอย่างดี จะทำให้เรื่องราวยิ่งมีพลัง
4.ซื้อโฆษณาตามโซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น เฟสบุ๊ค เพื่อโปรโมท ตัวคุณเอง และห้ามตอบเด็ดขาดเวลาที่คนมาถามว่าคุณรวยเป็นร้อยล้านได้ยังไง  คุณขายอะไร ธุรกิจของคุณคืออะไร โรงงานของคุณอยู่ที่ไหน  เพราะคุณไม่มี คุณมีแค่มือถือเครื่องเดียวที่ใช้หากินนี่แหละ

การเริ่มต้นสำคัญมาก เมื่อคนเริ่มรู้จักคุณ ก็ถึงเวลาที่คุณจะงัดคำคมต่างๆออกมาใช้งาน โดยให้คุณเขียนคำคมเป็นภาพ เพราะคนไทยชอบที่สุดคือแชร์รูปภาพคำคม  และต้องไม่ลืมใช้รูปคุณที่ถ่ายกับรถสปอร์ต หรือ ถ่ายกับหิมะเป็นภาพพื้นหลัง ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลมาก ยิ่งคนแชร์คำคมคุณมากเท่าไร คนก็จะเห็นรูปหน้าคุณมากเท่านั้น

สิ่งที่คุณต้องจำไว้เสมอ นั่นก็คือ คุณไม่ต้องกลัวว่าสิ่งที่คุณพูดนั้นจะผิด และมีใครมาแย้งได้ เพราะ สูตรแห่งความสำเร็จจริงๆแล้วมันไม่มี ถนนที่มุ่งไปสู่ความร่ำรวยนั้นมีนับล้านๆเส้นทาง วิธีการเดียวกันคนหนึ่งทำแล้วสำเร็จ อีกคนหนึ่งทำแล้วล้มเหลวก็มีถมไป เพราะฉะนั้น เวลาคุณสอนคนเรื่องวิธีรวย มันจึงไม่มีทางผิด และต่อให้มันผิด คนที่มาฟังเขาก็ไม่รู้ เพราะเขาไม่รวยไง  คงไม่มีคนที่รวยเป็นร้อยล้านจริงๆมานั่งฟังคุณพูดแน่นอน

และไม่ต้องกลัวว่าใครจะถามว่าคุณทำธุรกิจอะไร โรงงานคุณอยู่ไหน ร้อยล้านที่คุณมีคุณได้มาจากขายผลิตภัณฑ์อะไร  เพราะ เขาเชื่อคุณตั้งแต่ เห็นสูท-หิมะ-ลัมโบกีนี่ แล้ว  จำไว้ว่าคนไทยไม่ได้ถูกโปรแกรมมาให้สงสัย แต่ถูกเลี้ยงมาให้เชื่อ

ผมเปิดคอร์สสอนรวยมาเกือบ1ปี จากอดีตครูที่เจ๊งจากการหุ้นทำร้านอาหาร แล้วหันมาขายลูกชิ้นปิ้ง ส่งต้นฉบับหนังสือแล้วไม่มีใครสนใจ สู่การสร้างตัวตนใหม่เป็นกูรูด้านความรวย ผมหาเงิน4ล้านได้ภายใน1ปี จากการสอนคนอื่นๆ
ถ้าผมทำได้ คุณก็ทำได้

สำหรับหลักฐานทางการเงิน ถ้ามีใครสงสัย จริงๆผมไม่ต้องโชว์ก็ได้ แต่อยากให้คนที่ท้อแท้อยู่เห็นจริงๆว่ามันทำได้ง่ายๆในการหาเงินล้าน ให้พวกท่านเลือกสมาชิกมาคนนึงเป็นตัวแทนที่เชื่อถือได้ แล้วผมจะส่งหลักฐานให้เขาดู
ที่ไม่อยากโพสรูปหลักฐานในกระทู้ เพราะเดี๋ยวคนจะเบี่ยงประเด็นไปว่าอวดรวย โดยไม่สนใจเนื้อหาในกระทู้

คนเปิดคอร์สสอนหุ้น ไม่มีใครกล้าเปิดพอร์ตตัวเองให้ดูสักคนครับ
มันคือ ความจริงใจพื้นฐานที่สุดแล้ว

มีความเป็นไปได้สูงที่คนพวกนี้ จะรวยจากการขายคอร์สมากกว่าเล่นหุ้น

http://pantip.com/topic/35584751